“ยางรถยนต์” เป็นส่วนสำคัญของรถที่จะทำให้ทุกการเดินทางของเราปลอดภัย และด้วยเพราะยางรถยนต์จะต้องสัมผัสกับพื้นถนนตลอดเวลา และต้องเสี่ยงกับตะปู หลุมบ่อบนถนนเมืองไทยที่จะทำให้ยางรั่ว ยางแบน หรือยางแตกได้ตลอดเวลา อาจจะเป็นที่ว่าเกิดอุบัติเหตุกับเราอย่างไม่คลาดคิดก็เป็นได้เพราะการที่รถยางแตกถือเป็นอันตรายสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสารอย่างมาก เพื่อดูแลคุณทุกช่วงชีวิตเราจะมาแนะนำว่า “ยางรั่ว ยางแตก ปะแบบไหน ดีกว่ากัน !”
การปะยางรถยนต์มีกี่ประเภท
ก่อนจะเข้าเรื่องว่าปะยางแบบไหนดี เพื่อให้เราเลือกวิธีการปะยางรถยนต์ได้ถูกต้องกับสถานการณ์ที่เราพบเจอ คงต้องอธิบายว่าการดูแลยางรถยนต์มีถึง 3 แบบ ได้แก่
- การปะยางรถยนต์สตรีมแบบร้อน
- การปะยางรถยนต์สตรีมแบบเย็น
- การปะยางรถยนต์แบบสอดใส้
การปะยางรถยนต์สตรีมแบบร้อน
อย่างแรกที่ได้รับความนิยมในการปะยางกันเป็นอย่างมากนั้นเพราะส่วนใหญ่มักใช้กับรถมอเตอร์ไซค์ รถกระบะ เก๋ง ไปจนถึงรถบรรทุกสิบล้อ โดยการปะยางแบบสตรีมแบบร้อนนั้นจะใช้แผ่นยางชนิดพิเศษ โดยผ่านการหลอมด้วยความร้อน จากนั้นนำไปประกบกับรอยที่ ยางรั่ว หรือรอยแผลบนตัวยางรถยนต์ และใช้เครื่องมือในการกดเพื่อประสานแผ่นยาง กับ ยางรถยนต์ ซึ่งรอย ยางรั่ว หรือบาดแผลจะแนบสนิทเป็นเนื้อเดียวกันกับยาง และยังสามารถรับน้ำหนักได้เท่ากับยางปกติ แต่ข้อเสียของงการสตีมร้อนก็มีโอกาสที่ความร้อนจะทำให้โครงสร้างของ ยางรถยนต์ เสียรูปทรง และอาจทำให้ ยางรถยนต์ บวมได้
- ข้อดี คือ เป็นการปะยางรถยนต์ทำให้รอยรั่วโดนปิดได้สนิทที่สุด
- ข้อเสียคือก็มีโอกาสที่ความร้อนจะทำให้โครงสร้างของ ยางรถยนต์ เสียรูปทรง และอาจทำให้ ยางรถยนต์ บวมได้
การปะยางรถยนต์สตรีมแบบเย็น
หากพูดถึงการปะยางแบบสตรีมเย็นเป็นวิธีการใกล้เคียงกับการสตรีมร้อนเลยครับ แต่ว่าส่วนมากนั้นมักจะใช้กับรถจักรยาน เพราะการปะยางแบบนี้นั้นไม่เหมาะกับรถที่ต้องแบกของหนักๆ และมีขั้นตอนการทำแบบเดียวกันกับปะยางแบบสตรีมแบบร้อน โดยเริ่มจากถอดยางออกจากกระทะล้อ ให้หินเจียร์ทำความสะอาดโดยรอบบาดแผลด้านในของยาง หลังจากนั้นใช้กาวทาทิ้งไว้ให้หมาด ๆ จากนั้นให้แผ่นยางสตรีมเย็น แปะทับลงไปใช้ฆ้อนตีให้เนื้อแนบสนิทปิดบาดแผลรอยรั่ว เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย
- ข้อดีการปะยางแบบสตรีมเย็น ยางรถยนต์ไม่เสียรูป สามารถยังขับขี่ได้สมูทเช่นเคย โดยไม่รู้สึกแตกต่าง
- ข้อเสียการปะยางแบบสตรีมเย็น จะรองรับน้ำหนักมาก ๆ ไม่ได้ ถ้าเป็นกระบะบรรทุกหนัก อาจจะเกิดการรั่วซึมจุดที่รั่ว หรือแตกอีกครั้ง
การปะยางรถยนต์แบบสอดใส้ แบบแทงไหม หรือตัวหนอน
สำหรับวิธีการสุดท้ายนั้นอาจจะมีชื่อเรียกที่หลายหลากแบบไม่ว่าจะเป็นแบบสอดใส้ การแทงไหม หรือตัวหนอน นั้นมักจะใช้เฉพาะกับรอย ยางรั่ว หรือบางแผลที่มีขนาดเล็กที่เกิดจากตะปู เกลียวปล่อย หรือน็อตขนาดที่ไม่ใหญ่ หรือโดนสกรู น๊อต ขนาดเล็กตำเข้ากับยางรถยนต์ การทำแบบนี้รวดเร็ว ทันใจ โดยเพียงดึงตะปู หรือสิ่งที่ทิ่มตำยางรถยนต์ออก ตามด้วยการใช้ตะไบปลายแหลม ๆ แทงเข้าไปเพื่อทำความสะอาดบาดแผลก่อน ใช้ที่แทงไหมเป็นเหล็กแหลม ๆ แทงไหมที่มีส่วนผสมระหว่างใยสังเคราะห์ยางดิบและกาวลงไปปิดบาดแผลบนยางรถยนต์ก็เสร็จสิ้น ซึ่งวิธีนี้ใช้เวลาในการทำเร็วที่สุด โดยไม่ต้องถอด ยางรถยนต์ ออกมาจากกระทะล้อ และไม่ต้องถอดกระทะล้อออกจากรถให้ยุ่งยาก
- ข้อดีของการปะยางแบบสอดไส้ หรือแบบแทงไหม เร็ว ง่าย ไม่ต้องถอดยางให้เสี่ยงล้อเป็นรอย ค่าใช้จ่ายไม่แพง ประหยัดเงิน
- ข้อเสียของการปะยางแบบสอดไส้ หรือแบบแทงไหม รอยปะ อาจหลุดร่อนได้ มีโอกาสรั่วซึมอีกครั้งหากปะถ้าแทงไม่ดี การปะยางแบบนี้ใช้กับแผลขนาดใหญ่ไม่ได้ ไม่เหมาะกับรถที่ต้องใช้ความเร็วสูง และบรรทุกสัมภาระที่หนัก